ประวัติของการเงินและสกุลเงินเกาหลี
ประวัติของการเงินและสกุลเงิน
(บทนำ)
ปัจจุบันคงพูดได้ว่า ไม่มีใครไม่รู้จักสกุลเงินของเกาหลี "วอน (원)" โดยมีชื่อเต็มเป็นภาษาเกาหลีว่า "대한민국 원" อ่านว่า แด-ฮัน-มิน-กุก-วอน สัญลักษณ์: ₩ ตัวย่อที่ใช้ตามมาตรฐานสากลคือ KRW
แบ่งเป็นธนบัตรและ เหรียญดังนี้
1. ธนบัตรของเกาหลีใต้จะมี 4 ชนิดคือ
- ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน (₩1,000)
- ธนบัตร จำนวน 5,000 วอน (₩5,000)
- ธนบัตร จำนวน 10,000 วอน (₩10,000)
- ธนบัตร จำนวน 50,000 วอน (₩50,000)
1. ธนบัตรของเกาหลีใต้จะมี 4 ชนิดคือ
- ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน (₩1,000)
- ธนบัตร จำนวน 5,000 วอน (₩5,000)
- ธนบัตร จำนวน 10,000 วอน (₩10,000)
- ธนบัตร จำนวน 50,000 วอน (₩50,000)
2. เหรียญของเกาหลีใต้จะมี 6 ชนิดคือ
- เหรียญจำนวน 1 วอน (₩1)
- เหรียญจำนวน 5 วอน (₩5)
- เหรียญจำนวน 10 วอน (₩10)
- เหรียญจำนวน 50 วอน (₩50)
- เหรียญจำนวน 100 วอน (₩100)
- เหรียญจำนวน 500 วอน (₩500)
- เหรียญจำนวน 1 วอน (₩1)
- เหรียญจำนวน 5 วอน (₩5)
- เหรียญจำนวน 10 วอน (₩10)
- เหรียญจำนวน 50 วอน (₩50)
- เหรียญจำนวน 100 วอน (₩100)
- เหรียญจำนวน 500 วอน (₩500)
-------------------------------
ประวัติของการเงินและสกุลเงินเกาหลี
หากพูดถึงประวัติศาสตร์ของค่ าเงินเกาหลีคงต้องย้อนกลั บไปในยุคศตวรรษที่3 ก่อนคริสต์ศั กราช หรือประมาณ 300ปีก่อนคริสตกาล มีการค้นพบหลักฐานทางประวัติ ศาสตร์ว่ามีการใช้เงินเหรียญครั ้งแรกของเกาหลีในยุค โกโชซอน หรือโชซอนโบราณ (400 - 300ปีก่อนคริสตกาล) อาณาจักรแห่งแรกของชาวเกาหลี ซึ่งอยู่ในรูปแบบของเหรียญรู ปทรงมีด (Knife money) มีชื่อเรียกในภาษาเกาหลีว่า "มยองโดจอน (Myeongdojeon -명도전)" เป็นเงินเหรียญที่มีเข้ ามาจากชาวจีนแคว้นเอี๋ยน (Yan) ในยุคสมัยราชวงศ์โจวของจีน ได้เข้ามากับการติดต่อซื้ อขายระหว่างกัน
รูปภาพ "มยองโดจอน (Myeongdojeon -명도전)" |
ในขณะเดียวกันได้กำหนดให้ เหรียญรูปทรงเมล็ดถั่ว (Grain Coins) นำเข้ามาใช้เป็นสื่อกลางในการติ ดต่อซื้อขายในอาณาจักร ซึ่งได้มีการนำมาใช้อยู่เป็ นเวลานานหลายยุคหลายสมัย จนมาถึงในยุคราชวงศ์โครยอ (ค.ศ.918- 1392) ได้มีการผลิตเหรียญรูปทรงเมล็ ดถั่วในรูปแบบใหม่เป็นของตนเอง และมีการใช้งานอยู่จนถึงปีค.ศ. 1097
มีการสั่งผลิตเงินเหรียญจากเหล็ กและทองสัมฤทธิ์ครั้ งแรกของเกาหลีในรัชสมั ยของพระเจ้าซองจงแห่งโครยอ (ค.ศ.960-997) กษัตริย์องค์ที่6 แห่งราชวงศ์โครยอ ในช่วงรัชสมัยของพระเจ้าซุ กจงแห่งโครยอ (ค.ศ.1045-ค.ศ.1105) ระบบการเงินในปีค.ศ.1097-1107 ได้มีการหล่อเหรียญในหน้ าตาและรูปแบบที่มี ความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งแบ่งเป็นสามชุดด้วยกันดังนี ้
1. เหรียญดงกุก "동국" (มีความหมายว่า แผ่นดินทางตะวันออก) ประกอบด้วย "เหรียญดงกุกจุงโบ (동국중보)" , "เหรียญดงกุกตงโบ (동국 통보)"
รูปภาพ "เหรียญดงกุกจุงโบ (동국중보)" , "เหรียญดงกุกตงโบ (동국 통보)" |
2. เหรียญแฮดง "해동" (มีความหมายว่า ทะเลทางตะวันออก) ประกอบด้วย "เหรียญแฮดงจุงโบ (해동중보)" ,"เหรียญแฮดงตงโบ (해동통보)"
รูปภาพ "เหรียญแฮดงจุงโบ (해동중보)" ,"เหรียญแฮดงตงโบ (해동통보)" |
3. เหรียญซัมฮัน "삼한" (มีความหมายว่า สามแคว้น) ประกอบด้วย "เหรียญซัมฮันจุงโบ (삽한중보)" , "เหรียญซัมฮันตงโบ (삼한통보)"
รูปภาพ "เหรียญซัมฮันจุงโบ (삽한중보)" , "เหรียญซัมฮันตงโบ (삼한통보)" |
เงินเหรียญ ที่ทำจากโลหะอื่นๆที่ไม่ใช่เหล็ กอย่าง เหรียญทองแดงและเหรียญรูปทรงน้ ำเต้าที่ทำมาจากเงิน ที่มีชื่อเรียกว่า "อึนพยอง (은병)" มีการใช้งานอยู่ในระบบในช่ วงศตวรรษที่ 10 และ 11 แต่การใช้งานก็ยังคงจำกัดอยู่ ในวงแคบไม่ได้รับความนิยมเท่าไร
รูปภาพ เหรียญ "อึนพยอง (은병)" |
ในปี 1392 อาณาจักรโครยอล่มสลายและอาณาจั กรโชซอนได้ถูกสถาปนาขึ้ นโดยนายพลอีซองกเย หรือพระเจ้าเเทโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน และพระองค์ยังได้ทรงให้มีการปรั บปรุงระบบเงินตราใหม่ขึ้น โดยพยายามให้มีการออกเงิ นตราในรูปแบบกระดาษและออกแบบเงิ นตราชนิดเหรียญในรูปแบบใหม่ให้ มีเอกลักษณ์ของราชวงศ์ โชซอนเองแทนการนำจากจีนอย่างที่ ผ่านมา แต่ในตอนแรกไม่ประสบความสำเร็ จเท่าใดนัก เนื่องจากปัญหาทางการเมืองที่จี นยังคงเข้าแทรกแซงเรื่อยมา เงินตราที่ออกในเกาหลีโดยไม่พึ่ งการนำเข้าจากจีนที่ ประสบความสำเร็จ ก็คือ เงินกระดาษที่ทำจากเปลือกต้ นแบล็กเบอร์รี ที่เรียกว่า "จอฮวา (저화)" เพื่อนำมาใช้แทนการใช้เงินเหรี ยญ แต่เงินเหรียญที่ทำจากทองสั มฤทธิ์ที่มีชื่อว่า "โชซอนตงโบ (조선 통보)" ยังคงมีใช้อยู่ในระบบการซื้ อขายจนถึงปีค.ศ.1423 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้ าเซจงมหาราช (ค.ศ.1418-1450) กษัตริย์พระองค์ที่4 แห่งราชวงศ์โซซอน
รูปภาพ เงินกระดาษ หรือตั๋วเงิน "จอฮวา (저화)" |
รูปภาพ เหรียญ "โชซอนตงโบ (조선 통보)" |
เหรียญที่ถูกผลิตขี้นมาใหม่ ในศตวรรษที่17 ถือในเงินตราเหรียญที่ ประสบความสำเร็จที่สุดเมื่อเที ยบกับที่ผ่านมา มีการใช้งานจริงและเป็นที่ยอมรั บทั่วทั้งประเทศเป็นครั้งแรก ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมากต่ อระบบการแลกเปลี่ยนซื้อขายในช่ วงเวลาต่อมา
สกุลเงินหลักของเกาหลี (เรียงลำดับก่อน→หลัง)
- สกุลเงิน"มุน (Mun-문)" (ค.ศ.1633-1892) : ในปีค.ศ.1633 "มุน (문)" ถูกกำหนดขึ้นมาเป็นสกุลเงินหลั กสกุลเงินแรกของเกาหลี เป็นสกุลเงินที่ใช้หมุนเวียนกั นอย่างแพร่หลายมากที่สุด สกุลเงิน"มุน" เป็นหน่วยเงินที่ใช้เรียกเงิ นเหรียญ ทองแดงและเหรียญทองสัมฤทธิ์ เงินเหรียญในช่วงเวลานั้นก็คือ "ซังพยองตงโบ (상평통보)" เป็นเงินเหรียญแรกที่ ทำมาจากทองแดง สกุลเงิน "มุน" ถูกใช้เรียกจนมาถึงในปี ค.ศ.1892 เมื่อ "ยาง (양)" เข้ามาเป็นสกุลเงินหลัก
รูปภาพ เหรียญ "ซังพยองตงโบ (상평통보)" |
- สกุลเงิน "ยาง (Yang-양)" (ค.ศ.1892-1902): เป็นสกุลเงินที่มีการนำระบบทศนิ ยมมาใช้ครั้งแรก โดย 1 ยาง (양) เท่ากับ 10 ชอน (전) หรือเท่ากับ 100 ฟุน (푼) ขณะที่ 5 ยาง (양) เท่ากับ 1 ฮวาน (환) แท้จริงแล้วสกุลเงินยางเคยถู กใช้งานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 เป็นสกุลย่อยของฮวาน (환) และมุน (문) อย่างไรก็ตามสกุลเงินยางก็ได้ถู กกำหนดเป็นสกุลเงินหลักในปี ค.ศ.1892 และถูกใช้กันมาจนถึง ปีค.ศ. 1902
*สกุลเงินนั้นในแต่ละยุค แม้อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันก็อาจมีสกุลเงินอื่นๆที่ใช้ งานควบคู่กันไปด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่าง สกุลเงินหลักของไทยในปัจจุบันคื อ "บาท" แต่เราก็ยังมีการใช้งานสกุลเงิน "สตางค์" ควบคู่ไปด้วย
- สกุลเงิน "วอน (won -원)" (ค.ศ.1902-1910): ถูกนำมาใช้แทนสกุลเงิน "ยาง (양)" ในปีค.ศ.1902 โดยมีอัตราค่าเงินทดแทนที่ 5ยาง =1วอน สกุลเงินที่ใช้ร่วมกันกับสกุ ลเงินวอนในช่วงนี้ ก็คือ "ชอน (전)" โดย 1วอนเท่ากับ 100 ชอน
อัตราเปรียบเทียบเงินวอน กับสกุลเงินที่ผ่านมา
1 วอน (원) = 1000 มุน (문)
1 วอน (원) = 5 ยาง (양)
1 วอน (원) = 1000 มุน (문)
1 วอน (원) = 5 ยาง (양)
ในปี ค.ศ. 1909 มีการเปิดธนาคารแห่งแรกในเกาหลี แต่เป็นธนาคารสาขาย่ อยของธนาคารหลักในประเทศญี่ปุ่ นที่มีชื่อว่า "ธนาคารไดอิชิคังเงียว (Dai-Iohi Kangyo)" ซึ่งอยู่ในช่วงเดียวกับที่ชาติ ญี่ปุ่นเข้ามามี อำนาจในประเทศเกาหลีส่งผลให้ค่ าเงินและสกุลเงินวอนมีการเปลี่ ยนแปลงอีกครั้ง นั่นทำให้สกุลเงิน "วอน (won -원)" ได้สิ้นสุดลงในปีค.ศ.1910 โดยใช้อัตราหรือเรทเทียบกับค่ าเงินของญี่ปุ่น และได้เปลี่ยนมาใช้สกุลเงิน "เยน" ของญี่ปุ่น
- สกุลเงิน "โชซอนเยน (조선 엔)" (ค.ศ.1910-1945) : แม้จะมีการบันทึกไว้ตามหลั กฐานทางประวัติศาสตร์ว่าชื่ อของสกุลเงิน มีชื่อเต็มๆว่า "โชซอนเยน หรือ Korean Yen" ก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่สกุลเงินที่เป็ นของเกาหลีโดยแท้จริง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าอัตราค่ าเงินและสกุลเงินในช่วงเวลานั้ นถูกควบคุมโดยญี่ปุ่น ดังนั้นสกุลเงินหลักในช่ วงเวลานี้ก็คือ "โชซอนเยน (조선 엔)" หรือเรียกโดยทั่วไปว่า "เยน (Yen-엔)" และสกุลเงินที่ใช้ร่วมกันในเวลานั้ นก็ได้แก่ "เซน (센)" ซึ่งล้วนเป็นสกุลเงินที่ถูกกำหนดขึ้นโดยญี่ปุ่นทั้งสิ้น
รูปภาพ ตัวอย่างธนบัตรในสกุลเงิน "โชซอนเยน (조선 엔)" |
ต่อมาในปีค.ศ 1912 ธนาคารไดอิชิคังเงียว ถูกบูรณะและเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โชซอนอึนแฮง (조선은행)" มีความหมายว่า ธนาคารแห่งโชซอน เป็นธนาคารกลางซึ่งมีหน้าที่ ในการออกสกุลเงินในประเทศ ควบคุมราคาสินค้าภายในประเทศ รวมถึงการออกธนบัตรเงินเพื่ อนำเข้ามาใช้จ่ายในระบบการซื้ อขาย สกุลเงินเยนสิ้นสุดการใช้ งานลงในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้ งที่2 หรือในปีค.ศ.1945 เกาหลีได้กลับมาอิสรภาพอีกครั้ งแม้จะถูกแบ่งเป็นเหนือและใต้ก็ ตาม
**สกุลเงินในช่วงเวลานี้ขอแบ่งเป็น 2 ส่วนเพื่อให้เข้าใจง่าย คือ สกุลเงินของเกาหลีเหนือ และ สกุลเงินของเกาหลีใต้นะคะ
• สกุลเงินของเกาหลีเหนือ
ปลายสงครามโลกครั้งที่2 สหภาพโซเวียตและสหรัฐอเมริกาไม่สามารถทำการตกลงกันได้เรื่องการรวมเกาหลี ต่างฝ่ายต่างประกาศสนับสนุนดินแดนในส่วนที่ตัวเองยึดครอง โดยเกาหลีใต้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดชื่อเรียกประเทศว่า "สาธารณรัฐเกาหลี" ขณะที่เกาหลีเหนือที่ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียต ได้มีชื่อเรียกประเทศว่า "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี"
เกาหลีเหนือนั้นหลังจากถูกประกาศแบ่งแยกออกมาจากเกาหลีใต้แล้ว ในช่วงเวลานั้นยังคงมีการใช้สกุลเงิน "เยน (Yen-엔)" อยู่อีกเป็นเวลา 2 ปี ในระหว่างนั้นสหภาพโซเวียตได้มีการออกเงินธนบัตรออกมาใช้ชั่วคราวโดยกำหนดให้สกุลเงิน "วอน (won -원)" เป็นสกุลเงินหลักแบบชั่วคราวไปก่อน จนกระทั่งมีธนาคารกลางของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 1947 ได้ออกและกำหนดสกุลเงินใหม่มาใช้ โดยเลือกใช้สกุลเงิน "วอน (won -원)" เป็นสกุลเงินหลักต่อไปและประกาศใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1947 จนถึงปัจจุบัน สกุลเงินวอนของเกาหลีเหนือมีชื่ อเต็มเป็นภาษาเกาหลีว่า "โชซอนมินจูจูอีอินมินกงฮวากุก วอน (조선민주주의인민공화국 원)" ใช้สัญลักษณ์ ₩ และตัวย่อสกุลเงินว่า KPW สกุลเงินอื่นๆที่ใช้ควบคู่กันก็ ยังคงเป็น "ชอน (전)" โดยมีอัตรา 1 วอนเท่ากับ 100 ชอนแบ่งเป็น3ยุคสมัยด้วยกัน
รูปภาพ เงินธนบัตรชั่วคราวของเกาหลีเหนือ (ค.ศ.1945) ที่ออกโดยสหภาพโซเวียต |
1.1 สกุลเงินวอนแบบเก่า (ค.ศ.1947-1959)
รูปภาพ เงินธนบัตรเกาหลีเหนือในปี ค.ศ.1947 |
1.2 สกุลเงินวอนแบบใหม่ (ค.ศ.1959-2009) ในช่วงเวลานี้มีการเปลี่ยนแปลงเงินธนบัตรและเงินเหรียญบ่อยครั้งเริ่มตั้งแต่ในปี ค.ศ.1959
รูปภาพ เงินเหรียญเกาหลีเหนือ |
รูปภาพ เงินธนบัตรเกาหลีเหนือในปี ค.ศ.1992 |
1.3 สกุลเงินวอนในปัจจุบัน (ค.ศ.2009-ปัจจุ บัน)
รูปภาพ เงินธนบัตรเกาหลีเหนือที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน |
• สกุลเงินของเกาหลีใต้
- สกุลเงิน "วอน (won -원)" ของเกาหลีใต้ (ค.ศ.1945-1953) : หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่2 เกาหลีถูกแยกออกเป็นสองแผ่นดิน คือแผ่นดินทางตอนเหนือ (เกาหลีเหนือ) และแผ่นดินทางตอนใต้ (เกาหลีใต้) ซึ่งมีกฏหมายและการปกครองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่เรื่องของระบบการเงินยังคงมีความคล้ายคลึงกันอยู่เพราะทั้งสองเลือกเปลี่ยนมาใช้สกุลเงิน "วอน (won -원)" เป็นสกุลเงินหลักและสกุลเงิน "ชอน (전)" เป็นสกุลเงินย่อยเหมือนกัน ซึ่งเป็นการนำรูปแบบของระบบการเงินในช่วงปลายยุคโชซอนก่อนที่จะถูกควบคุมโดยอาณานิคมญี่ปุ่นหรือก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น "สกุลเงินเยน" มาใช้นั่นเอง
สกุลเงินหลัก "วอน (won -원)" มีอัตราต่อสกุลเงินย่อย "ชอน (전)" ที่ 1 วอนเท่ากับ 100 ชอน การผลิตธนบัตรเงินมาใช้ในช่วงแรกนั้นมีอัตราตั้งแต่ 5 ชอน จนถึง 100 วอนเท่านั้น (5 ชอน, 10 ชอน, 20 ชอน, 50 ชอน, 1 วอน, 5 วอน, 10 วอน, 100 วอน) และในปีค.ศ.1950 จึงเริ่มมีการผลิตธนบัตรเงินในจำนวนที่สูงขึ้น ซึ่งยังคงต้องอาศัยสั่งพิมพ์ธนบัตรจากบริษัท National Printing Bureau (国立印刷局) ในประเทศญี่ปุ่น แต่ในปีต่อมาการผลิตเหรียญและธนบัตรเงินในสกุลเงินเกาหลีใต้ทั้งหมดถูกผลิตภายในประเทศโดยบริษัท Korea Minting and Security Printing Corporation
รูปภาพ ตัวอย่างธนบัตรในสกุลเงิน "วอน (won -원)" ค.ศ.1950-1952 |
ในช่วงแรกที่เปลี่ยนมาใช้สกุลเงินวอนนั้น อัตราเรทค่าเงินนั้น 1 วอน = 1 เยนของญี่ปุ่น และ 15 วอน = 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากเกิดสงครามเกาหลีแล้วค่าเงินเกาหลีลดลงอย่างน่าตกใจ โดยอัตราค่าเงินที่เทียบกับค่าเงินสหรัฐแล้ว 6000 วอน = 1 ดอลลาร์เท่านั้น ทำให้มีการนำสกุลเงินใหม่เข้ามาใช้ สกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" ถูกนำกลับใช้ใหม่โดยมีอัตราค่าเงินเทียบกับค่าเงินสกุลเงินวอนอยู่ที่ 1 ฮวาน = 100 วอน
- สกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" (ค.ศ.1953-1962): เนื่องจากค่าเงินวอนที่ลดลงอย่างมาก ดังนั้นในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 1953 ได้มีการประกาศใช้สกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" เป็นสกุลเงินหลัก ควบคู่ไปกับสกุลเงิน "วอน (won -원)" และ "ชอน (전)" ซึ่งมีอัตราค่าเงิน 1 ฮวาน = 100 วอน = 10000 ชอน แม้ว่าจะยังมีการใช้สกุลเงิน "ชอน (전)" แต่ความเป็นจริงแล้วแทบไม่ได้ถูกนำมาใช้เลย เพราะค่าเงินที่ตกต่ำในช่วงเวลานั้นนั่นเอง
รูปภาพ ตัวอย่างธนบัตรในสกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" ค.ศ.1953-1957 |
ในปี 1959 ได้มีการผลิตเหรียญ 10, 50 และ 100 ฮวานออกมาใช้ร่วมกับธนบัตร เป็นการกลับมาของเงินเหรียญอีกครั้ง หลังจากที่เลิกใช้ไปนานหลายปี โดยได้สั่งผลิตจากเมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
รูปภาพ ตัวอย่างเหรียญในสกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" ค.ศ.1959 |
รูปตราบนเหรียญทั้งสาม ได้แก่
+ เหรียญ 100 ฮวาน ด้านหน้าเป็นรูป "อีซึงมัน (이승만)" ประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ และด้านหลังเป็นรูปนกฟีนิกซ์สองตัว
+ เหรียญ 50 ฮวาน ด้านหน้าเป็นรูป คอบุกซอน (거북선) เรือรบหุ้มเกราะลำแรกของโลก
+ เหรียญ 10 ฮวาน ด้านหน้าเป็นรูป ดอกมูกุงฮวา (무궁화) ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลี
+ เหรียญ 100 ฮวาน ด้านหน้าเป็นรูป "อีซึงมัน (이승만)" ประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ และด้านหลังเป็นรูปนกฟีนิกซ์สองตัว
+ เหรียญ 50 ฮวาน ด้านหน้าเป็นรูป คอบุกซอน (거북선) เรือรบหุ้มเกราะลำแรกของโลก
+ เหรียญ 10 ฮวาน ด้านหน้าเป็นรูป ดอกมูกุงฮวา (무궁화) ดอกไม้ประจำชาติของเกาหลี
แม้ว่าสกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" ถูกนำมาใช้แล้วแต่ก็ยังไม่อาจแก้ไขปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในช่วงขณะนั้นได้เช่นกัน ในช่วงแรกที่เปลี่ยนมาใช้สกุลเงิน "ฮวาน" อัตราค่าเงินเมื่อเทียบกับค่าเงินของสหรัฐแล้ว 1 ดอลลาร์ = 60 ฮวาน แต่ภายหลังค่าเงินตกต่ำถึงที่สุดขนาดที่ 1 ดอลลาร์ = 1,250 ฮวานเลยทีเดียว
ในปี 1962 จึงได้มีการปรึกษาหารือกันเพื่อนำสกุลเงิน "วอน" กลับมาใช้เป็นสกุลหลัก โดยกำหนดให้ 1 วอน = 10 ฮวาน เหรียญ 10 และ 50 ฮวานถูกเก็บออกจากระบบจนหมดในเดือนมีนาคม 1975
- สกุลเงิน "วอน (won -원)" (ค.ศ.1962-ปัจจุบัน): 9 มิถุนายน 1962 สกุลเงิน "วอน (won -원)" ถูกนำกลับมาใช้เป็นสกุลเงินหลักในอัตรา 1 วอน = 10 ฮวาน เหรียญและธนบัตรในสกุลเงิน "ฮวาน (Hwan- 환)" ถูกเก็บออกจากระบบและประกาศเลิกใช้อย่างถาวรในวันที่ 22 มีนาคม 1975
ในปี 1962 ได้สั่งตีพิมม์ธนบัตรใหม่ที่ประเทศอังกฤษ 10 และ 50 ชอน, 1, 5, 10, 100 และ 500 วอน และได้มีการผลิตออกมาอีกหลายเวอร์ชั่น รวมถึงให้มีการผลิตธนบัตรในประเทศมากขึ้น ในปี 1965 ธนบัตร 100 วอนได้ถูกตีพิมพ์แบบใหม่อีกครั้ง โดยในครั้งนี้ได้นำเทคนิคการพิมพ์โดยแม่พิมพ์ร่องลึกและเทคนิคต่างๆมาใช้เพื่อลดการปลอมแปลงเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะทยอยเปลี่ยนและใช้เทคนิคต่างๆเพื่อลดการปลอมแปลงในธนบัตรอื่นๆ
รูปภาพ ตัวอย่างเหรียญในสกุลเงิน "วอน (won -원)" ค.ศ.1962-2002 |
ประวัติที่ยาวนานอย่างนี้หวังว่าผู้อ่านจะไม่เบื่อไปซะก่อน อย่างไรก็ตามถ้าให้สรุปแบบง่ายๆสั้นๆ แบ่งเป็น 4 ช่วง
ช่วงที่ 1 ใช้เงินและสกุลเงินของจีนเป็นหลัก แม้จะมีความพยายามให้ใช้เงินเหรียญและสกุลเงินเกาหลีก็ตามแต่ก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับมากนัก
ช่วงที่ 2 ใช้เงินและสกุลเงินเกาหลี ความพยายามที่ผ่านมาได้รับความสำเร็จ เงินและสกุลเงินเกาหลีเป็นที่ยอมรับและมีการใช้งานจริง สกุลเงินที่ใช้ ได้แก่ มุน (Mun-문), ฮวาน (환), ฟุน (푼), ยาง (Yang-양), ชอน (전) และ วอน (won -원)
ช่วงที่ 3 ใช้เงินสกุลเงินญี่ปุ่น สกุลเงินหลัก "เยน (Yen-엔)" และสกุลเงิน "เซน (센)"
ช่วงที่ 4 เกาหลีแบ่งเป็นเหนือและใต้ โดยเกาหลีเหนือเลือกใช้สกุลเงิน "วอน (won -원)" ตั้งแต่ปี 1947 จนถึงปัจจุบัน ขณะที่เกาหลีใต้มีการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินอยู่ 3 ครั้งด้วยกันคือ ในตอนแรกเลือกใช้สกุลเงินหลัก "วอน (won -원)" และเปลี่ยนมาใช้ "ฮวาน (Hwan- 환)" เป็นสกุลเงินหลัก แต่ต่อมาก็หันกลับมาใช้ "วอน (won -원)" เป็นสกุลเงินหลักอีกครั้ง ซึ่งใช้จนมาถึงในปัจจุบันนั่นเอง
---------------------------
แปลและเรียบเรียง: KoreaTown@AsianCastle
ข้อมูลและรูปภาพ: www.ohmynews.com , museum.smu.ac.kr ,
http://blog.daum.net/sukhyun0912 , http://history.yj21.net ,
http://banknoteworld.com , https://ko.wikipedia.org
Post a Comment