ประตูเมืองทั้งแปดของกรุงโซล

ประตูเมืองโบราณทั้งแปดของกรุงโซล เกาหลีใต้(The Eight Gate of Seoul)




ประตูเมืองทั้งแปดของโซล เป็นแปดประตูเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ซึ่งเคยเป็นกำแพงของป้อมปราการล้อมรอบเมืองในสมัยราชวงศ์โชซอน ถูกสร้างขึ้นระหว่าง 1396 และ 1398
โดยเริ่มการก่อสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าแทโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน เพื่อวัตถุประสงค์ในควบคุมการเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง และกำหนดให้ใช้เป็นจุดสำหรับต้อนรับบรรดาคณะทูตจากต่างชาติที่เป็นทางการ

ประตูเมืองทั้งแปด สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประตูในทิศหลัก และอีก 4 ประตูในทิศรอง

ในประตูเมืองทั้งแปดนี้ ประตูในทิศหลัก นั้นจะเป็นประตูเมืองใหญ่ ซึ่งจะถูกเรียกรวมกันว่า "ซาแดมุน (사대문)" หรือ “สี่ประตูใหญ่” อันได้แก่
  1. ประตูทางทิศเหนือ

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “ซุกจองมุน (숙정문- Sukjeongmun)” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งกฎระเบียบที่เคร่งครัด’
  • รู้จักกันในชื่อ “บุกแดมุน (북대문- Bukdaemun)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูใหญ่ทางทิศเหนือ’
  • ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1396


<ปัจจุบัน>

 
  1. ประตูทางทิศตะวันออก

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “ฮึงอินจีมุน (흥인지문-Heunginjimun)” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งความเมตตากรุณา’
  • รู้จักกันในชื่อ “ดงแดมุน (동대문-Dongdaemun)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูใหญ่ทางทิศตะวันออก’
  • ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1398 และโครงสร้างที่พบเห็นกันในปัจจุบันนี้ได้จากการบูรณะในปี ค.ศ.1869


<ปัจจุบัน>

  1. ประตูทางทิศใต้

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า ซุงรเยมุน (숭례문- Sungnyemun)” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งมารยาทอันสูงศักดิ์’
  • รู้จักกันในชื่อ “นัมแดมุน (남대문-Namdaemun)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูใหญ่ทางทิศใต้’
  • ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1395 และสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1398
  • ค.ศ.1907 ได้รับสั่งให้บูรณะเนื่องจากถูกปล่อยให้ทิ้งร้างขาดการดูแลรักษา โดยคำสั่งของเจ้าชายมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ทรงทรงสั่งให้ตัดเส้นทางรถรางผ่านใต้ประตู และมีการนำไฟฟ้าเข้ามาใช้เพื่อการประดับตกแต่ง ซึ่งการบูรณะปรับปรุงในครั้งนี้ ทำให้มีโครงสร้างอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
  • ค.ศ.1933 รัฐบาลเกาหลีในสมัยนั้น มีคำสั่งให้ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบประตูเมืองแห่งนี้
  • ค.ศ. 1962 รัฐบาลเกาหลีได้ประกาศให้ประตูเมือง “นัมแดมุน” แห่งนี้เป็นสมบัติประจำชาติหมายเลข 1 (จากทั้งหมด 115 รายการ)
  • ค.ศ.2008 เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในช่วงกลางดึกของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ทำให้โครงสร้างบริเวณของหลังคา ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และถล่มลงมาส่งผลให้โครงสร้างส่วนฐานด้านล่างได้รับความเสียหายไปด้วย เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จาการสืบสวนทำให้ทราบสาเหตุว่าเกิดจากการลอบวางเพลิง โดยชายอายุ 69 ปี ที่เป็นผู้วางเพลิงมีแรงจูงใจในการก่อเหตุเนื่องจากไม่พอใจกับเงินชดเชยที่ได้รับจากการเวนคืนที่ดินที่มีจำนวนน้อยเกินไป โดยชายผู้ก่อเหตุนี้ได้ถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 10 ปี
  • ค.ศ.2013 วันที่ 29 เมษายน การบูรณะซ่อมแซมจากเหตุการณ์ไฟไหม้ได้เสร็จสมบูรณ์ และในวันที่ 4 พฤษภาคม รัฐบาลเกาหลีใต้จัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยประธานาธิบดีพัก กึน-ฮเย ทำพิธีเปิดป้ายไม้ขนาดใหญ่ที่สลักชื่อประตู

 




  1. ประตูทางทิศตะวันตก

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “ดนอีมุน (돈의문-Donuimun)” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งความจงรักภักดี’’
  • รู้จักกันในชื่อ “ซอแดมุน (서대문-Seodaemun)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูใหญ่ทางทิศตะวันตก’
  • ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1396 ปัจจุบันไม่มีให้เห็นแล้ว เนื่องจากได้พังทลายลงในปี 1915 ในช่วงยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น แต่ก็ได้มีการจัดตั้งอนุสาวรีย์ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ในบริเวณเดิมที่ประตูเดิมเคยตั้งอยู่ รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เคยมีการแสดงความคิดเห็นและอภิปรายเกี่ยวกับการสร้างประตูเมืองทางทิศตะวันตกนี้ขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีการสันนิษฐานว่าจะเริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.2022


<ปัจจุบัน>



ขณะที่ในอีกสี่ประตูในทิศรอง จะถูกเรียกรวมกันว่าเป็น "ซาโซมุน (사소문)" หรือ “สี่ประตูเล็ก” ซึ่งได้แก่

  1. ประตูทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “ชังอีมุน (창의문-Changuimun)” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งความคิดริเริ่ม’’
  • รู้จักกันในชื่อ “บุคโซมุน (북소문-Buksomun)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูเล็กทางเหนือ’
  • ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1396 ประตูเมืองเคยถูกเผาทำลาย เสียหายลงในปี 1592 และสร้างขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1740 ในปัจจุบันถือเป็นประตูเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาสี่ประตูเล็ก หรือในกลุ่ม "ซาโซมุน (사소문)"


<ปัจจุบัน> 

  1. ประตูทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “ฮเยฮวามุน (Hyehwamun-혜화문)” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งการถ่ายทอดปัญญา’’
  • รู้จักกันในชื่อ “ดงโซมุน (Dongsomun-동소문)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูเล็กทางทิศตะวันออก’
  • ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1396 ซึ่งมีชื่อเดิมในตอนแรกว่า "ฮงฮวามุน (홍화문-Honghwamun)" ซึ่งไปซ้ำกับชื่อของประตูของพระราชวังชังกยอง หรือ ชังกย็องกุง ดังนั้นใน ปีค.ศ.1511 จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นชื่อปัจจุบันที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
  • ส่วนโครงสร้างที่เป็นไม้ด้านบนถูกนำออกในช่วงประมาณปี ค.ศ.1926 เหลือไว้เพียงแต่โครงสร้างที่เป็นหินไว้เท่านั้น
  • ต่อมาในยุคอาณานิคมญี่ปุ่น, โครงสร้างประตูทั้งหมดถูกนำออกเพื่อใช้ในการทำถนน
  • และได้รับการสร้างขึ้นมาใหม่ในปี 1992 ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยย้ายไปทางเหนือเล็กน้อยจากตำแหน่งเดิม


<ปัจจุบัน>

  1. ประตูทางทิศตะวันออกเฉียงใต้

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “ควางฮีมุน (광희문-Gwanghuimun) ” มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งแสงสว่างของความหวัง’’
  • รู้จักกันในชื่อ นัมโซมุน (남소문-Namsomun)” ซึ่งแปลว่า ‘ประตูเล็กทางทิศใต้’
  • แต่เดิมถูกเรียกว่า Sugumun (แปลว่า "ประตูช่องทางน้ำไหล")
  • ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1396 และมีการบูรณะใหม่ในปี ค.ศ.1711-1719 (ตั้งแต่ในยุคอาณานิคมของญี่ปุ่นประตูควางฮีมุนได้กลายเป็นเหมือนสุสานแห่งวีรบุรุษทหารกล้าที่พลีชีพเพื่อชาติจากเหตุการณ์ต่อต้านกองทัพญี่ปุ่น) ต่อมาตัวประตูและกำแพงบริเวณใกล้เคียงส่วนใหญ่ถูกทำลายได้รับความเสียหายในช่วงสงครามเกาหลี แต่โครงสร้างและประตูที่เราได้เห็นกันในปัจจุบันนี้นั้นคือโครงสร้างที่ได้รับการบูรณะใหม่ในปีค.ศ.1975


<ปัจจุบัน>

  1. ประตูทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

  • ชื่อทางการในภาษาเกาหลีว่า “โซอีมุน (소의문-Souimun) มีความหมายว่า ‘ประตูแห่งการส่งเสริมความยุติธรรม’’
  • รู้จักกันในชื่อ ซอโซมุน (서소문-Seosomun) ซึ่งแปลว่า ‘ประตูเล็กทางทิศตะวันตก’
  • ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1396 ปัจจุบัน ไม่มีให้เห็นแล้ว เนื่องจากได้พังทลายเสียหายลงในปี ค.ศ. 1914 ในยุคอาณานิคมของญี่ปุ่น 

ดังนั้นในปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นอยู่เพียง 6 ประตูเท่านั้น โดยในสองประตูที่หายไปก็คือ ประตูเมืองทางทิศตะวันตกและประตูทางตะวันตกเฉียงใต้นั่นเองค่ะ และสำหรับในประเทศเกาหลีใต้เองนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ประตูเมืองทั้งแปดนี้เท่านั้น ยังมีประตูเมือง หรือป้อมปราการ และประตูพระราชวังอีกมากที่มีบทบาทสำคัญและมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน

-------------------------------
แปลและเรียบเรียง: KoreaTown@AsianCastle
แหล่งที่มา & ภาพประกอบ:
http://kr.newtopic.org/ , http://blog.daum.net/ssjs55/7697992http://www.hanatourintl.com/_korean/02_tourinfo.php?cno=01009&m1=&m2=&c=6http://book.culppy.org/bbs/board.php?bo_table=23_01&wr_id=48http://www.jennyhouse.info/board/bbs/board.php?bo_table=seoul&wr_id=4460



ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.