Drama: The Best Way to End a Life: Ending Planner
ซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่อง The Best Way to End a Life: Ending Planner
"ของขวัญแด่วันสุดท้าย"
เรื่องย่อ
ในวัยเด็ก "อิฮาระ มาซาโตะ" มักถูกเพื่อนๆ ล้อเลียนว่าเป็นลูกชายร้านรับจัดงานศพ ซึ่ง "อิฮาระ โคทาโร่" ผู้เป็นพ่อนั้นเป็นเจ้าของรุ่นที่3 เขาจึงเติบโตท่ามกลางความรู้สึกที่ไม่ชอบกิจการนี้ของครอบครัวสักเท่าใดนัก ขณะที่ "ร้านอิฮาระ" ธุรกิจของครอบครัวแห่งตระกูลอิฮาระ มักจะรับจัดงานศพให้กับศพที่ได้รับมาจากตำรวจ ในเวลาต่อมาลูกชายคนรองอย่าง "มาซาโตะ" ซึ่งคุณแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่ตัวเองยังอยู่ชั้น ม.3 และอาศัยอยู่กับพ่อ พร้อมพี่น้องอีก 4 คน ได้แยกออกมาอยู่เอง หลังเรียนจบมหาวิทยาลัยก็ได้มาทำงานที่บริษัททำกิจการร้านเหล้า ในหน้าที่เป็นผู้จัดการแอเรียวันหนึ่ง มาซาโตะตำหนิผู้จัดการร้านที่ทำยอดขายได้ไม่ดีเหมือนเคย ทว่าวันรุ่งขึ้น ผู้จัดการร้านคนนั้นกลับกระโดดลงมาจากตึก หนำซ้ำยังมีอาการหนักและยังไม่ได้สติ มาซาโตะรู้สึกผิดและเจ็บปวด คิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้ผู้จัดการร้านฆ่าตัวตาย ทันใดนั้น "ฮารุกะ" น้องสาวที่ช่วยดูแลกิจการร้านรับจัดงานศพของที่บ้านก็โทรมาบอกว่า พ่อเจ็บหนัก เลวร้ายไปกว่านั้นมาซาโตะยังต้องมารับรู้ว่า เคนโตะ พี่ชายคนโตที่คิดว่าจะมารับช่วงต่อกิจการเป็นรุ่นที่ 4 ก็กลับหายตัวออกไปจากบ้านตั้งแต่ 2 เดือนก่อน ขณะที่มาซาโตะนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก "ฮายาโตะ" น้องชาย และน้องสาว "โมโมโกะ" ต่างรีบรุดไปที่โรงพยาบาล และอาจเป็นเพราะครอบครัวได้กลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง พ่อจึงฟื้นขึ้นมาระยะหนึ่ง และบอกกับลูกๆ ก่อนจะสิ้นใจว่าให้ปิดร้านรับจัดงานศพ
ในเวลานี้ มาซาโตะ เข้ามาทำหน้าที่เจ้าภาพจัดงานศพ แต่เพราะความห่างเหินกับพ่อไปนาน ทำให้เขาจัดงานศพโดยที่ไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจมากนัก หลายวันต่อมา มาซาโตะได้แวะไปที่โรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมผู้จัดการร้านที่ยังไม่ได้สติ แต่ก็พบว่าผู้จัดการร้านก็มาสิ้นใจไปอีกคน มาซาโตะที่ตั้งใจจะปิดร้านรับจัดงานศพตามที่พ่อสั่งเสียไว้ แต่เมื่อเห็นครอบครัวผู้จัดการร้านที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป พร้อมๆ กับคำถามบางอย่างในจิตใจ มาซาโตะจึงรับจัดงานศพให้ในฐานะผู้จัดการร้านรับจัดงานศพ และเขาจะจัดการกับคำถามที่ยังคาใจอย่างไร ติดตามชมได้ใน ของขวัญแด่วันสุดท้าย
นำแสดงโดย
Yamashita Tomohisa หรือ ยามะพีEikura Nana
Maeda Atsuko หรือ อัตจัง(AKB48)
Takashi Sorimachi
Chinen Yuri (Hey!Say!JUMP)
Ono Ito
Post a Comment